รู้จัก CTS กลุ่มธุรกิจโรงงานรับผลิต สร้างแบรนด์สกินแคร์และเสริมอาหาร

เริ่มต้นจาก C บริษัท คอสมาพรอฟ จำกัด นำทีมบริหารโดย นายพีรดนย์ พีรพัฒนวงศ์ ผู้นำตลาด OEM ODM รองรับการเติบโต คลินิกความงาม ทั่วประเทศ ด้วยคุณภาพระดับแพทย์ไว้วางใจ และเป็นเบื้องหลังของแบรนด์ชั้นนำ

จวบจน T บริษัท ทีเอฟ คอสเมโทโลจี จำกัด นำทีมบริหารโดย ดร.อัครภัสสร์ ชนะจินดาโสภณ ขยายกลุ่มสู่นักลงทุน นักธุรกิจ พร้อมพันธมิตรจากต่างประเทศทั่วโลก เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของตลาดที่มีการขยายตลอดเวลา

และ S บริษัท สยามกรุ๊ป โกลบอล เทรด จำกัด นำทีมบริหารโดย ดร.กุลภัทร กมล ที่ให้คำปรึกษาเรื่องสินค้า และการทำแบรนด์ ให้สินค้าที่ผลิตออกมา เป็นสินค้าที่เติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว

โดย CTS มีวิสัยทัศน์ที่เป็นผู้นำด้านโรงงานการผลิต ที่ได้มาตรฐาน ด้วยเครื่องมือ เครื่องจักร และบุคลากรที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน สามารถรองรับการผลิต และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร

จุดเริ่มต้นของ CTS

  • เติบโตจากแพทย์ผิวหนัง

ประสบการณ์ 20 ปี ของ บริษัท คอสมาพรอฟ จำกัด ในการผลิตสกินแคร์และเสริมอาหารให้แพทย์ผิวหนังและความงามนับ 1,000 คลินิกทั่วประเทศ (Dermatologist) และโรงพยาบาลชั้นนำ ด้วยทีมงานที่มีความชำนาญในการพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ได้ทำการค้นคว้าวิจัยเพื่อมุ่งเน้นการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอาง (Cosmeceutical) เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) ที่มีคุณภาพ

ด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์คิดค้นและผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อผิวใช้ในวงการแพทย์ผิวหนัง เป็นโรงงานที่ก่อตั้งหรือดำเนินงานโดยแพทย์และทีมวิจัยที่มีประสบการณ์ มีความรู้ทางด้านผิวหนังโดยตรง คิดค้นวิจัยผลิตผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายและผิวที่บอบบางเป็นพิเศษ คัดสรรวัตถุดิบจากแหล่งคุณภาพทั่วโลก โดยคำนึงถึงการปลอดภัยทุกสภาพผิว เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมุ่งเน้นคุณภาพให้มีมาตรฐานระดับสากลเสมอมา

เพื่อประสิทธิภาพที่น่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ในความปลอดภัย รวมถึงได้ผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจหลังการใช้ ภายใต้นโยบาย “คุณภาพผลิตภัณฑ์ ต้องแม่นยำ ตามมาตรฐานความต้องการของลูกค้า ส่งมอบตรงเวลา”

  • มุ่งสู่อนาคต

ธุรกิจ OEM ในมิติที่ขาดกันและกันไม่ได้ ด้วยเคล็ดลับการสร้างแบรนด์ชั้นนำด้วย นวัตกรรม R&D พร้อมขยายแล็บ R&D และกำลังการผลิต

1. Smart Factory เทคโนโลยีการผลิตออกแบบมารองรับตลาดที่เปลี่ยนไป พร้อมขยายไลน์ผลิตรองรับการเติบโตในอนาคต ด้วยการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ (Cost Effective) โดยสามารถผลิตได้ตั้งแต่ 100 ชิ้น จนถึงนับ 1,000,000 ชิ้น ไร้ข้อกังวลวอลุ่มการผลิต

จุดแข็งนี้ทำให้แบรนด์น้องใหม่สามารถสั่งทดลองตลาดได้ ในราคาต้นทุนที่ต้องการ ไร้กังวลเรื่องวอลุ่มการค้า ไลน์ผลิตที่สามารถปรับรับทุกขนาดคำสั่งซื้อ เพราะ CTS รู้ว่าในโลกที่เปลี่ยนแปลงนี้ การทดสอบตลาดคือสิ่งสำคัญ และต้นทุนในการออกสินค้าใหม่ของแบรนด์นั้นมีความเสี่ยง ถ้าเจ้าของแบรนด์ต้องแบกรับความเสี่ยงนี้ CTS จึงออกแบบเทคโนโลยีการผลิตมาเพื่อรองรับการเติบโตของแบรนด์ ในทุกช่วงเวลาของการสร้างแบรนด์

2. จากวิถีรับจ้างผลิต เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความงามและสุขภาพ หากคิดว่า CTS เป็นผู้รับจ้างผลิต CTS จะทำหน้าที่เพียงเป็นผู้รับจ้างผลิต แต่ถ้าคิดว่า CTS คือพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ที่ขาดกันและกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างต้องพึ่งพาอาศัยอย่างยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์นี้ทำให้ CTS ทุ่มเทกับทีมวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างมาก

  • R&D ของ CTS ต้องคิดค้นนำหน้ารอ ก่อนที่ผู้บริโภคจะเข้าสู่เทรนด์นี้ เพราะมนุษย์ยุคใหม่ขี้เบื่อ จึงต้องพัฒนาเสมอทำสิ่งที่ทำไม่ได้ ให้ทำได้ ด้วยการเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์บนจรรยาบรรณทางธุรกิจ ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันตลาดให้กับแบรนด์ที่มาจ้างผลิต วิจัยและพัฒนาด้วยสารสกัดได้รับรางวัลการันตีจากนานาชาติ มีงานวิจัยรองรับ รองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ที่นอกจากใส่ใจผลลัพธ์แล้ว ยังต้องการนวัตกรรมของสินค้าใหม่ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ด้วยพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนไป R&D จึงไม่หยุดพัฒนา
  • เจ้าของแบรนด์สามารถเข้าร่วม R&D ร่วมคิดกลยุทธ์ไปด้วยกัน วางแผนผลิตสินค้าใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ในระยะยาว ส่งผลให้แบรนด์ก้าวไปข้างหน้าด้วยการเปิดตลาดด้วยนวัตกรรมใหม่เสมอ
  • จากเดิม ลูกค้าต้องการ CTS ทำใหม่ นำเสนอลูกค้าด้วยการคิดวิเคราะห์มาอย่างดีว่า อนาคตธุรกิจความงามและสุขภาพ B2C B2B จะมีการเติบโตด้วยสินค้าอะไร

ในปัจจุบันลูกค้าของ CTS คือ คลินิกความงาม แพทย์ผิวหนังทั่วประเทศนับ 1,000 คลินิก และแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่ต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุขภาพ

3. ทำงานเชิงรุก การเพิ่มคุณค่าการตลาดใหม่ให้แบรนด์ เสริมทัพด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์และระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง CTS มีผู้เชี่ยวชาญทีมที่ปรึกษาด้านการตลาดเป็นคู่คิดของคนสร้างแบรนด์ให้สามารถเติบโตไปกับโลกการตลาดที่ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยประสบการณ์ของ ดร.กุลภัทร กมล

ซึ่งเข้าใจการตลาดของแบรนด์ลูกค้าเป็นอย่างดีในการทำธุรกิจ นอกจากเป็นที่ปรึกษาการตลาดให้กับแบรนด์สินค้าของลูกค้าแล้ว CTS ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและดูแลระบบหลังบ้านควบคู่ไปด้วย ถือเป็นการตลาดแบบยั่งยืน

4. ขยายไลน์ผลิต กลุ่มสมุนไพร และสปา รองรับการเติบโตของตลาดส่งออก สมุนไพรออร์แกนิค ชา กาแฟ และกลุ่มสปา เธอราพีบำบัด จาก ดร.อัครภัสสร์ ชนะจินดาโสภณ ผู้มีประสบการณ์ด้านการผลิตสมุนไพรออร์แกนิคตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อการส่งออก

ด้วยปัจจุบันมูลค่าการส่งออก สมุนไพรไทย อยู่ในหลักแสนล้านบาท โดยสมุนไพรไทยในกลุ่มเสริมอาหารมีมูลค่าการใช้และส่งออกรวมกว่า 80,000 ล้านบาท ข้อมูลนี้สอดคล้องกับกระแสสุขภาพที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สปา และสกินแคร์ ที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งมีมูลค่าการตลาดทั่วโลกหลักแสนล้านบาท ดังนั้น หากประเทศไทยสามารถเป็นแหล่งปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐานของภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลได้ส่งเสริมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมสมุนไพร ผ่านแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ปี 2560-2564 ทำให้ตลาดสมุนไพรเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงอย่างก้าวกระโดด

ทำให้ CTS ขยายไลน์ผลิตรองรับ พร้อมเปิดบ้านรับนักลงทุนจากทั่วโลก ที่สนใจผลิต เสริมอาหาร ชา กาแฟ สกินแคร์สมุนไพรไทย และผลิตภัณฑ์สปา ซึ่งปัจจุบัน CTS ได้รับความร่วมมือจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แนะนำนักลงทุนจากกลุ่มประเทศ CLMV บินมาศึกษาดูงานและเยี่ยมชมโรงงานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยุโรป ติดต่อสั่งผลิตเข้ามาจำนวนมากในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ นับเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจฟื้นตัวในกลุ่มสุขภาพและความงามของไทย

  • ความสำเร็จของลูกค้าคือความสำเร็จของ CTS

CTS ไม่ใช่แค่โรงงาน แต่คือผู้คน คือทรัพยากรบุคคลชั้นนำ ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านมาร่วมกันทำงาน เพื่อความสำเร็จของลูกค้า

การจับมือกันครั้งนี้นับเป็นสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ให้วงการผู้ผลิตสกินแคร์และเสริมอาหาร เมื่อทั้งสามบริษัท เป็นผู้นำทางด้านการผลิต และผู้นำด้านที่ปรึกษาการตลาดร่วมกันสรรค์สร้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของอนาคตแบรนด์ สินค้าความงาม และ สุขภาพ ชั้นนำในไทย

 

ข้อมูลจาก : bangkokbiznews

https://www.bangkokbiznews.com/pr-news/biz2u/pr/1025557